บริการซ่อมบำรุงอาคาร: ไฟตก ไฟกระชากคืออะไร ป้องกันได้อย่างไร เมื่อพูดถึงหนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อย ๆ จากการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยเฉพาะเวลาฝนตก ฟ้าร้องฟ้าผ่า ก็คือเรื่องของ ไฟตก ไฟกระชาก ซึ่งสัญญาณบ่งชี้ก็คือ การที่เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านคุณเริ่มมีอาการติด ๆ ดับ ๆ แอร์ไม่เย็นหรือบางครั้งก็ตัดไปเอง หรือการที่หลอดไฟไม่ติดหรือกระพริบอยู่บ่อย ๆ ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถป้องกันได้ด้วย อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก (Surge Arrester) ซึ่งมีทั้งแบบที่เสียบเข้ากับเต้ารับไฟฟ้าที่ผนังหรือรางปลั๊กพ่วง หรือติดตั้งในสวิทช์บอร์ด (ตู้ MDB) หรือตู้คอนซูมเมอร์
ไฟตก ไฟกระชาก คืออะไร
อาการไฟตก เกิดขึ้นเมื่อมีแรงดันไฟฟ้าต่ำกว่า 220V ในช่วงเวลาหนึ่งอย่างรวดเร็ว ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าหยุดทำงานในระยะเวลาสั้น ๆ หรือไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เช่น หลอดไฟอาจมีการกระพริบหรือลดความสว่างลง หรือพัดลมที่หมุนช้าลง
อาการไฟกระชาก เกิดขึ้นเมื่อมีแรงดันไฟฟ้านั้นขาด ๆ เกิน ๆ จาก 220V ในช่วงเวลาหนึ่งอย่างรวดเร็ว ซึ่งแรงดันไฟฟ้าที่ไม่เสถียรและกระแสไฟฟ้าที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วนี้อาจสร้างความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำลังทำงานอยู่ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของแรงดันเกินหรือมีความคงทนต่ำ ซึ่งหากไม่มีการป้องกันหรือแก้ไข อาจส่งผลให้วงจรไฟฟ้ามีปัญหารุนแรงและนำไปสู่สาเหตุของเพลิงไหม้ได้
โดยสาเหตุของการเกิดไฟตกและไฟกระชากอาจเกิดได้จากหลายปัจจัยคล้ายกัน เช่น ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติอย่างฟ้าผ่า หรือการวางระบบไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน สายไฟชำรุดทำให้เสียแรงดันไฟฟ้า สัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า หรือการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอัตราการกินไฟในปริมาณมากพร้อมกัน เป็นต้น
อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก (Surge Arrester)
อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก (Surge Arrester หรือ Surge Protector) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดแรงดันไฟฟ้า สำหรับช่วยป้องกันความเสียหายจากการที่แรงดันไฟฟ้าสูงขึ้นในชั่วขณะ หรือในช่วงที่เกิดไฟกระชากนั่นเอง เราจึงมักเห็นว่าปลั๊กไฟรุ่นใหม่ ๆ จะมีอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก (Surge Arrester) ติดตั้งเสริมมาด้วย และเพื่อการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพควรมีการต่อสายดินเพื่อให้กระแสไฟฟ้าวิ่งลงสู่ดินแทนเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้ความสามารถในการต้านทานแรงดันไฟฟ้าก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพและรุ่นของอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากนั้น ๆ